แนะนำดูดวง แนะนำหมอดู ค่าครูแล้วแต่ทำบุญ กับ ท่าน อ.ฟู๋ หมอดูทรงญาณที่เชี่ยวชาญในศาสตร์ของพลัง ออร่า อัญมณี โหงวเฮ้ง ตัวเลข และอื่นๆ

สวัสดีครับ ผู้ที่มาสนใจในเรื่องของการดูดวง หรือสนใจในศาสตร์ของการดูดวงทุกท่าน 

ผมจะมานำเสนอเรื่องของ ท่าน อ.ฟู๋ ซึ่งเป็นหมอดูตาทิพย์ หรือหมอดูทรงญาณนั่นเอง ท่าน อ.ฟู๋นั้นดูดวงเป็นครั้งแรกตั้งแต่ท่านนั้นเรียนอยู่ในชั้น ประถมศึกษา ซึ่งวิธีการดูดวงของท่านนั้น จะเป็นการมองหน้าหรือมองรูปของผู้ที่มาติดต่อ ก็สามารถมองเห็นชะตาของคนๆนั้นได้ และบอกได้ว่าคนๆนั้นเป็นคนยังไง ความสามารถนี้อย่างที่ผู้เขียนได้บอกกล่าวไปว่าท่าน อ.ฟู๋นั้นดูดวง หรือมองเห็นชะตาของคนตั่งแต่ท่านจำความได้แล้ว ซึ่งความสามารถนี้ท่าน อ.นภัสวรรณ รักษิตาบุษฎีกานต์ หรือ อ.เก๋ บุคคลผู้ซึ่งเป็นมารดา หรือแม่ ของท่าน อ.ฟู๋นั้นได้ยืนยันถึงความสามารถนี้ และได้กล่าวอีกว่า ตอนเด็กนั้น ท่าน อ.ฟู๋จะเป็นเด็กที่มีความคิดไม่เหมือนใคร และก็ดูเป็นคนที่มีความเป็นผู้ใหญ่ตั่งแต่เด็ก แถมยังเลือกคบคนตั่งแต่เล็กๆ และคนที่คบนั้น ก็มักจะเป็นคนที่พึ่งพาได้เสมอ ท่าน อ.ฟู๋นั้นสืบเชื้อสายและขึ้นชื่อว่าเป็นผู้ที่ได้รับการสืบทอดของผู้ที่เป็นร่างทรงเทพจีนตระกูลหยาง จึงทำให้ท่านมีตบะหรือญาณตั่งแต่เด็กๆหรือจะเรียกว่าตั้งแต่เกิดนั่นเอง เท่าที่ผู้เขียนรู้มา เทพสามตานั้นก็เป็นคนแซ่หยาง นั่นอาจจะเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้ท่าน อ.ฟู๋ มีความสามารถนี้ ความสามารถในการดูดวงช่วยเหลือผู้คน และความสามารถในการทำพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์ ไม่ว่าจะพิธีกรรมปราบผีท่านก็เคยทำมาแล้ว ปัจจุบันท่านอ.ฟู๋นั้นมีผู้ที่มาติดต่อดูดวงและอื่นๆจากต่างประเทศเยอะมาก ก็คือมีผู้มาติดต่อดูดวงทั้งนอกและในประเทศนั่นเอง และที่สำคัญ ท่าน อ.ฟู๋กล่าวไว้ทุกครั้งว่าถ้าไม่พอใจผลการทำนาย หรือการช่วยเหลือ ทำพิธีใดๆ อ.ยินดีคืนปัจจัยให้ทั้งหมด เพราะถือเป็นความรับผิดชอบของผู้ทำนาย

3บรรพบุรุษร่างทรงเทพจีนตระกูลหยาง

ขออภัยที่ไม่มีรูปถ่ายใกล้ๆนะครับ เนื่องจากผู้ถ่ายไม่สามารถเข้าไปถ่ายได้นะครับ 

ถ้ามีรูปที่ใกล้และชัดเจนกว่านี้จะมาอัพเดทให้ดูอีกทีครับผม

รูปของ ท่าน อ.ฟู๋ ครับ

หมอดูทรงญาณคืออะไร หรือ หนึ่งในวิธีดูดวงของ ท่าน อ.ฟู๋

หมอดูทรงญาณก็คือการดูดวงด้วยระบบญาณ หรือจะเรียกว่า อภิญญาญาณ ซึ่ง อภิญญาญาณ นั้นเป็นญาณที่เกิดขึ้นจากมโนสัมผัสโดยตรง เป็นผลต่อเนื่องจากการทำสมาธิ ตามนิสัยบารมีของแต่ละท่าน ที่ได้เคยบำเพ็ญมา ผู้ที่ไม่มีนิสัยในทางอภิญญาในชาติอดีต จะทำสมาธิความสงบมากเท่าไร อภิญญาก็ไม่เกิดขึ้นแต่อย่างใด ถ้าผู้มีนิสัยเคยได้บำเพ็ญมาในชาติอดีต เมื่อทำสมาธิให้ใจมีความสงบเพียงเล็กน้อย อภิญญาญาณก็จะเกิดขึ้นได้

อภิญญาญาณนี้ จะเกิดขึ้นกับปุถุชนธรรมดาก็ได้ หรือเกิดขึ้นกับพระอริยเจ้าก็ได้ ไม่จำกัดเชื้อชาติ ศาสนา หรือผู้ไม่นับถือศาสนา อภิญญาญาณก็เกิดขึ้นได้ เพราะวิธีทำสมาธิความสงบเป็นหลักสากล มีอยู่ประจำโลกมาแต่กาลไหนๆ ตามประวัติในอดีต เมื่อพระพุทธศาสนายังไม่ได้อุบัติขึ้นในโลก ก็มีผู้ทำสมาธิความสงบและมีอภิญญาเกิดขึ้นอยู่แล้ว ยกตัวอย่าง อสิตดาบส ผู้มีความชำนาญในการทำสมาธิและอภิญญา เข้ามาเยี่ยมเจ้าชายสิทธัตถะ เมื่อครั้งประสูติได้ไม่กี่วัน รวมถึงอาฬารดาบส และอุทกดาบส ผู้เป็นอาจารย์สอนสมาธิความสงบแก่พระสิทธัตถะ ดาบสเหล่านี้ ก็ไม่รู้จักศีล 5 ศีล 8 แต่อย่างใด......

อภิญญาญาณ-ดังกล่าว มีจำนวนมาก จะอธิบายพอเป็นตัวอย่าง ดังนี้

1.จักขุญาณ-เป็น"ตาทิพย์"เกิดขึ้นจากใจโดยตรง อยากเห็นสิ่งใดเพียงกำหนดจิตดู จะสามารถเห็นสิ่งนั้นได้ เช่น อยากดูเทพเจ้า เหล่าเทวดาทั้งหลาย อยู่กันอย่างไร ก็จะเห็นได้ทั้งหมด หรือกำหนดจิตดูหมู่สัตว์นรก หรือหมู่เปรต อยู่กันอย่างไร ก็จะเห็นได้ทั้งนั้น

2.โสตญาณ-มี"หูทิพย์" สามารถกำหนดจิตฟังเสียงเทวดาทุกชั้นฟ้า แม้ผู้ที่ตกนรกมีเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดอย่างไร ก็ได้ยินทั้งนั้น

3.เจโตปริยญาณ-กำหนดจิต"ดูความคิดของผู้อื่นได้"ว่า กำลังคิดเรื่องอะไร คิดในทางดีหรือไม่ดี ที่เรียกว่า"รู้วาระจิตของผู้อื่น"

4.อิทธิวิธีญาณ-"มีฤทธิ์"ดำดิน เหาะเหินบนท้องฟ้าได้ ทั้งพระอริยเจ้าและปุถุชนผู้มีนิสัยทางนี้ มีปรากฏในตำรามากมาย

5.มโนมยิทธิญาณ-เป็น"ฤทธิ์ทางใจ"โดยเฉพาะ อยากจะทำตัวคนเดียวให้เป็นหลายคน หรือกำหนดจิตใช้อภินิหารแปลงรูปร่างเป็นสัตว์ ก็สามารถทำได้

6.ปุพเพนิวาสานุสสติญาณ-กำหนดจิต"ดูชาติอดีต"ของตนเองได้ ในชาติอดีตมีความเป็นอยู่อย่างไร มีใครบ้างที่มีความเกี่ยวข้องกัน สามารถรู้ได้ทั้งหมด

7.จุตูปปาตญาณ-เป็นญาณที่"รู้จิตของผู้ที่ตายไปแล้ว" ว่าขณะนี้จิตเขาไปอยู่ที่ไหน ได้รับกรรมอะไร เมื่อพ้นจากกรรมนี้แล้ว จะได้รับผลของกรรมอะไรต่อไป สามารถรู้ได้ทั้งหมด

8.อดีตังสญาณ-เป็นญาณที่"รู้ในเรื่องอดีต"ที่ผ่านมาทุกๆเรื่อง

9.อนาคตังสญาณ-เป็นญาณที่"รู้ในเรื่องอนาคต"ที่จะเกิดขึ้นกับทุกๆเรื่องเช่นกัน

อภิญญาญาณที่อธิบายมานี้ เป็นอภิญญาญาณชั้นโลกีย์ เป็นได้เฉพาะผู้มีนิสัยในทางนี้เท่านั้น ญาณนี้จะไม่ทำให้กิเลสตัณหาหมดไปจากใจแต่อย่างใด ถ้าผู้ไม่มีปัญญา ญาณดังกล่าวจะเป็นตัวสร้างกิเลสตัณหา สร้างมานะอัตตาขึ้นกับตัวเองเป็นอย่างมาก จะมีการหลงตัวลืมตัวไปว่า เราเก่งอย่างนั้น เราดีอย่างนี้ มานะอัตตาจะพองตัวสูงมากทีเดียว!!!

ในยุคนี้ ถ้าผู้มีญาณอย่างนี้ จะมีมหาชนยกย่องสรรเสริญว่า เป็นผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบอย่างเต็มที่ หรือบางทีอาจได้คะแนนนิยมไปว่า นี้คือพระอรหันต์ ที่เกิดขึ้นในโลกก็อาจเป็นได้ ถ้าผู้ใดมีอภิญญาญาณเกิดเป็นกับตัวเองแล้ว ต้องใช้ปัญญาเตือนตัวเองอยู่เสมอว่า อภิญญาญาณเป็นของเล่นเท่านั้น อย่าหลงตัวว่า ตนมีคุณธรรมแต่อย่างใด เป็นเพียงญาณโลกีย์ที่เสื่อมได้ ไม่ถาวรอะไร พระสิทธัตถะ ก็มีอภิญญาญาณดังกล่าวนี้มาก่อนตรัสรู้แล้ว แต่พระองค์ก็ยังเป็นปุถุชนอยู่ และไม่ได้ติดใจในญาณเหล่านี้แต่อย่างใด........

( หลวงพ่อทูล ขิปปปัญโญ )

ผู้ที่สนใจอยากจะดูดวงกับท่านอาจารย์ หรืออื่นๆ สามารถมาติดต่อท่าน อ.ฟู๋ได้ที่... 
LINE ID: mwc51137 ซึ่งค่าครู อ.ท่านคิดเป็นแล้วแต่ทำบุญ หรือตามปัจจัยนั่นเองสำหรับการดูดวงหรือวิเคราะห์เกณฑ์ชะตาทั่วไป
สำหรับผู้ที่มาติดต่อดูดวงผ่านไลน์นะครับ อ.ท่านบอกว่า เมื่อท่านโอนค่าครูแล้วแต่ทำบุญตามปัจจัยมาแล้ว ให้ส่งหลักฐานการโอน ไม่ว่าจะเป็นสลิป หรือรุปถ่ายก็ได้นะครับ พร้อมกับส่งคำถาม และส่งรูปภาพปัจจุบันของตนเอง หรือรูปภาพของคนที่เกี่ยวข้องกับคำถามนะครับ พร้อมกับ ชื่อ สกุล ปัจจุบันของตนเอง และผู้ที่เกี่ยวข้องกับคำถามด้วยนะครับ ซึ่ง อ.อาจจะดูให้ ตอบ คุย กับท่านในวันนั้นๆเลย หรือในช่วงเวลาไม่เกิน วันสองวันนะครับสำหรับผู้ที่มาติดต่อ ( ถ้าท่านอ.ไม่ติดธุระ หรือติดงานพิธีกรรมใดๆ ) และได้รับการตอบรับจากอ.แล้ว เนื่องจากว่ามีผู้ติดต่อเข้ามาหลายท่านนะครับ ส่วนที่ต้องการ ชื่อ สกุล เพราะว่าท่านอ.ฟู๋บอกว่าต้องนำรายได้ส่วนหนึ่งไปทำบุญให้กับผู้ที่มาติดต่อ รวมถึงเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายทั้งปวงของผู้ที่มาติดต่อ ซึ่งหากไม่ทำเช่นนั้นอ.จะติดกรรมได้ครับ ท่านอ.ฟู๋ว่าไว้ และรายได้ทั้งหมดอีกส่วนหนึ่ง อ.จะนำไปบูรณะศาสนสถานต่างๆครับ พร้อมกับช่วยเหลือผู้ประสบเคราะห์ทั้งหลาย รวมถึงบูรณะโรงเจของสามบรรพบุรุษร่างทรงตระกูลหยางด้วยครับ ซึ่งล่าสุดท่านอ.ฟู๋ได้ช่วยบริจาคหนังสือเด็กแท้งให้กับวัดอัยยิการาม ชื่อหนังสือว่า “หนูผิดอะไร” ,ช่วยบริจาคเงินหรือถวายปัจจัยสร้างพระวิหารให้กับวัดป่าประชาสามัคคีธรรม ณ อ.บรบือ จ.สารคาม ,มอบข้าวสารอาหารแห้ง และบริจาคเงินสงเคราะห์ให้กับมูลนิธิสถานธรรมเพื่อผู้ยากไร้ และอื่นๆ